แนวทางและวิธีการสอน
      แนวคิดและเทคนิคการการฝึก (Concept & Lesson) การฝึกฝนเริ่มต้นจากความรู้และเข้าใจในกระบวนการและขั้นตอนตามธรรมชาติว่า “เสียงเกิดขึ้นและทำงานได้อย่างไร” โดยยึดหลักขององค์ประกอบในการเกิดเสียงของมนุษย์ ซึ่งเกิดจากกระบวนการทำงาน คือ ลมหายใจ และ เส้นเสียง ที่จะสร้างคลื่นเสียงขึ้นทั้งในย่านความถี่ สูง-กลาง-ต่ำ ตลอดจนเป็นการกำหนด คุณภาพของเนื้อเสียง ที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการสร้าง ตำแหน่งเสียง เพื่อให้เกิดความกังวานหรือแก้วเสียง การออกเสียง และผลิตออกมาเป็น การร้องเพลงหรือการพูด ตามลำดับ
 

โดยมีขั้นตอนการเรียนที่เป็นมาตรฐาน คือ
 1. ตรวจเช็ค และ ประเมินผล (Diagnose & Evaluate)
      เพื่อประเมินทักษะ ทั้งข้อดีและข้อเสีย , ทักษะที่ผู้เรียนมีและไม่มี , รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นจากการพูดหรือร้องเพลงของผู้เรียน ฯลฯ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในปัญหาที่เกิดขึ้นหรือความต้องการในการเรียน จากนั้นจึงกำหนดทิศทางและวางแผนการเรียนอย่างเหมาะสมสมที่สุด เพื่อเป้าหมายที่ตรงกับความต้องการของนักเรียนและสิ่งที่นักเรียนควรจะได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมในมุมมองของครูไปพร้อมๆกัน
 

2. ดีไซน์แบบฝึกหัดการฝึกเสียงตามเฉพาะบุคคล (Exercise & Vocalize)
      ขั้นตอนของการกำหนดและออกแบบ “แบบฝึกหัดเสียง และ “การฝึกเสียง” ที่เหมาะสมกับนักเรียนซึ่งมีสภาพเสียงและปัญหาแตกต่างกัน เพื่อเป็นใช้เป็นเครื่องมือในการฝึกฝนกล้ามเนื้อเสียง , ระบบการหายใจ และกล้ามเนื้อทางกายภาพที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของนักเรียนให้มีประสิทธิภาพ ควบคุมได้ และมีความปลอดภัยต่อการใช้เสียงในทุกรูปแบบ ซึ่งการฝึกฝนนี้จะที่ทำให้นักเรียนเข้าใจเสียงของตัวเองและเข้าใจการใช้งานเสียงต่อไปในระยะยาวด้วย
 

3. แก้ไขและพัฒนา (Fix & Improve)
      เป็นขั้นตอนการปรับใช้ ทั้งการใช้เสียงเพื่อการพูดและการร้องเพลง ซึ่งเนื้อหา การพูด และ การร้องเพลง จะถูกแยกวิธีการฝึกอย่างละเอียดและชัดเจน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเสียงเป็นไปอย่างถูกต้อง ตรงจุด กระชับเวลา และเพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาไปสู่เป้าหมายของการนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้เสียงมืออาชีพหรือเป็นสันทนาการ โดยนักเรียนสามารถปรึกษาและร่วมกำหนดเป้าหมายของการแก้ไขและพัฒนาร่วมกันกับครูได้ตลอดเวลา
 

 

Mix Voice

      หนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญการแก้ไขและพัฒนาเสียงร้อง คือการสร้างคุณภาพเสียงและความยืดหยุ่นของเสียงทั้ง สูง-กลาง-ต่ำ และตำแหน่งที่สำคัญ คือ จุดเชื่อมต่อของเสียง (Bridge) ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของนักร้อง-ศิลปิน ดังนั้น การฝึกให้เกิด Mix Voice หรือ Mix Register จะทำให้นักเรียนสามารถ ขยายช่วงเสียง(Range)ให้มีความกว้างมากขึ้น เป็นการแก้ไขปัญหาการร้องเพลงเพี้ยน , เสียงปลิ้น , เสียงแหบ , เค้นเสียง ฯลฯ และพร้อมเข้าสู่ขั้นตอนการการฝึกฝนตามแต่ละหลักสูตรทั้ง การร้องเพลง และ ฝึกเสียงพูด ภายใต้การดูแลของครูอย่างใกล้ชิด
 

      ผลลัพธ์ของ Mix Voice หรือ Mix Register จะทำให้นักเรียนมีเสียงที่ไพเราะ , สดใส , กังวาน มีคุณภาพเสียงที่สมดุล (Vocal Balance) ทำให้การร้องเพลงในสไตล์ต่างๆสามารถฝึกฝนได้โดยง่าย รวดเร็วยิ่งขึ้น ตลอดจนเสียงพูดก็จะมีพลังและเปล่งเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติ สร้างสุขนิสัยเพื่อป้องกันปัญหาการใช้เสียงที่ผิดวิธีซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นักเรียนต้องเค้นหรือตะเบ็งเสียงอันเป็นต้นเหตุของการบาดเจ็บกล้ามเนื้อเส้นเสียงและกล่องเสียงนั่นเอง

 

 

The Vocal Techniques for Singing
เทคนิคการใช้เสียงสำหรับการร้องเพลง

      คอร์สการเรียนร้องเพลงและแก้ไขปัญหาการร้องเพลงหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนทุกเพศและหลากหลายวัย(อายุ 8 ปีขึ้นไป) สอนโดย ครูเอก แต่เพียงผู้เดียวในทุกๆชั่วโมง โดยเน้นความรู้-ความเข้าใจ -การนำไปใช้ เพื่อผลลัพธ์ของการเรียนที่ได้ผลและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยผู้เรียนสามารถกำหนดความต้องการของเนื้อหาการเรียนร่วมกับครู เพื่อวางแผนการเรียนที่เหมาะสมกับความต้องการทั้งการเรียนแบบระยะสั้นและระยะยาวแบบต่อเนื่อง
 

• Singing for Kid & Teen
      หลักสูตรเรียนเดี่ยวสำหรับเด็กและวัยรุ่น (อายุตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป) หลักสูตรการร้องเพลงและเทคนิคการใช้เสียง สำหรับเด็กและวัยรุ่น เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านการร้องเพลงและดนตรีได้อย่างมีความมั่นใจและเป็นตัวของตัวเอง ตลอดจนการฝึกฝนและแก้ไขปัญหาช่วงเสียงเปลี่ยน(เสียงแตก)ในช่วงวัยรุ่น เพื่อการร้องเพลงได้อย่างต่อเนื่อง ราบรื่น และสร้างพื้นฐานของการพัฒนาเสียงไปในทิศทางที่ดีในอนาคต
 

• Singing for the Singer
      หลักสูตรเรียนเดี่ยวสำหรับศิลปินมืออาชีพและบุคคลทั่วไป หลักสูตรเทคนิคการใช้เสียงและร้องเพลง เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงร้องในระดับมืออาชีพทั้งเพลงไทยและเพลงสากล , แก้ไขปัญหาการร้องสดบนเวที , Training เพื่อเข้าห้องบันทึกเสียง , พัฒนาเทคนิคการร้องในสไตล์ที่ใช้งานได้จริง หรือค้นหาการร้องเพลงในสไตล์ที่เป็นตัวเองสู่การเป็นศิลปินอย่างแท้จริง รวมทั้ง การ Training เพื่อการประกวด , ออดิชัน หรือ การร้อง On Stage ฯลฯ ได้อย่างมั่นใจ
 

• Singing for Adult & Executive
      หลักสูตรการร้องเพลงออกงานหรือผู้บริหาร หลักสูตรการขับร้องเพลงสำหรับนักเรียนผู้ใหญ่ หรือผู้บริหาร ที่ต้องการฝึกฝนการร้องเพลงตั้งแต่ระดับเริ่มต้น , แก้ไขและสร้างความมั่นใจในการร้องเพลง , แก้ไขการร้องเพี้ยน/คร่อมจังหวะ/เสียงไม่ไพเราะ ด้วยเนื้อหาที่ไม่ยาก เข้าใจง่าย ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้ เพื่อใช้งานให้ตรงตามความต้องการ เช่น ร้องเพลงออกงาน , สันทนาการ , เสริมสร้างภาพลักษณ์ หรือ เพื่อเป็นงานอดิเรกสร้างความสุข ฯลฯ
 

• Singing for Thai Style
      หลักสูตรเทคนิคการร้องเพลงไทย (ลูกทุ่ง/ลูกกรุง) หลักสูตรการขับร้องเพลงไทยในสไตล์ ลูกทุ่ง หรือ ลูกกรุง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการร้องและต้องการพัฒนาการร้องให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตลอดจนการฝึกฝนสำหรับการประกวดแข่งขัน , ออดิชัน หรือแม้ไม่เคยมีพื้นฐานการร้องมาก่อนเลยก็สามารถเรียนรู้ได้ทั้งแบบเรียนเป็นเพลงๆไป หรือลงรายละเอียดเพื่อการร้องเพลงที่สมบูรณ์แบบและมีความมั่นใจ
 

• KA - Voice Clinic
      หลักสูตรแก้ไขเสียงชำรุดและการใช้เสียงที่ไม่ถูกต้อง หลักสูตร Vocal Therapy เพื่อแก้ไขเสียงร้องที่ผิดปกติ , ชำรุด หรือมีพยาธิสภาพที่แย่ลงกว่าปกติอันเนื่องมาจากการใช้งานหรือการใช้เสียงผิดวิธี เพื่อคืนสมดุลของกล้ามเนื้อเสียงที่ดีกลับมา ทำให้เสียงร้องมีความสดใส มีพลังเสียงที่ดี ร้องเสียงสูง/กลาง/ต่ำ ได้กว้างขึ้น และสร้างสุขนิสัยในการเปล่งเสียงที่ถูกต้องเพื่อการใช้เสียงที่ดีในระยะยาว
 

      “ ทุกหลักสูตร จะมีการตรวจเช็คและซ่อมแซมเสียง สำหรับทั้งผู้มีความผิดปกติทางเสียง หรือมีสภาพเสียงที่ผิดปกติอันเนื่องมาจากการใช้งาน เช่น เสียงแหบ , เจ็บคอ , น้ำเสียงไม่มีคุณภาพ , พยาธิสภาพเสียง ฯลฯ เพื่อสร้างสุขนิสัยในการใช้เสียงร้องเพลงที่ดี และ คืนคุณภาพเสียงที่เป็นธรรมชาติโดยไม่ทำลายสไตล์ที่เป็นตัวเองของนักเรียน ”

 

 

 The Vocal Techniques for Speech
เทคนิคการใช้เสียงสำหรับการพูด

      คอร์สการเรียน “ฝึกออกเสียง” เพื่อ “เสียงพูดที่มีคุณภาพ” ตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบต่างๆ อาทิ ดารา-นักแสดง , พิธีกร , ผู้ประกาศ , วิทยากร ฯลฯ สร้างความมั่นใจในการออกเสียง ตลอดจนการแก้ไขปัญหาเสียงหรือการพูดออกเสียงเพื่อการใช้งานเสียงได้อย่างความมั่นใจ มีประสิทธิภาพ และก้าวหน้าในอาชีพการใช้เสียงในแต่ละสาขา
 

• Vocal for Acting
      หลักสูตรการใช้เสียงสำหรับนักแสดง หลักสูตรการใช้เสียงเพื่อแก้ปัญหาการออกเสียงในลักษณะต่างๆ เช่น ปัญหาคุณภาพเสียง , พูดไม่ชัด , ติดสำเนียงที่ไม่ใช่ภาษาไทย หรือภาษากลาง , การพูดเร็วหรือช้าเกินไป , เสียงเบา , ปัญหาโทนเสียงที่ไม่สามารถสื่อสารด้านอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฯลฯ ตลอดจน พัฒนาการใช้น้ำเสียงเพื่อพูดบทที่มีความสอดคล้องกับการแสดงได้อย่างมีคุณภาพและมืออาชีพ
 

• Vocal for Speaker
      หลักสูตรการใช้เสียงสำหรับพิธีกร , MC หรือผู้ประกอบอาชีพด้านการพูด หลักสูตรการใช้เสียงเพื่อพัฒนาทักษะการพูดและแก้ไขปัญหาการพูด , สร้างความมั่นใจในการออกเสียง , พัฒนาโทนเสียง-น้ำเสียง ,จังหวะการพูด ฯลฯ เพื่อการทำงานด้านการพูดและใช้เสียงได้อย่างมีคุณภาพ และสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ทั้งการเป็นพิธีกร , นักพูด , วิทยากร ตลอดจน ผู้บริหารที่ต้องพูดในที่สาธารณะ ฯลฯ
 

      “ ทุกหลักสูตร จะมีการตรวจเช็คความผิดปกติทางเสียง เช่น พูดไม่ชัด , เสียงเพี้ยน , เสียงขึ้นจมูก หรือการมีพยาธิสภาพเสียงที่ผิดปกติ ทั้งจากความเคยชินหรือจากการใช้งานเสียงที่ไม่ถูกต้อง เช่น เสียงแหบ , เจ็บคอจากการพูดหรือใช้เสียงแบบเรื้อรัง ฯลฯ เพื่อสร้างสุขนิสัยในการใช้เสียงที่ดี และคืนธรรมชาติของเสียงที่ดีให้กับนักเรียน เพื่อการใช้งานเสียงพูดที่ดีตามวัตถุประสงค์ของผู้เรียน ”

อัตราค่าเรียน (Course Prices)
• หลักสูตร เรียนเดี่ยว (Private Class) ของ Kru Ake Vocal Studio สอนโดย ครูเอก แต่เพียงผู้เดียวในทุกชั่วโมงการสอน
สามารถเลือกลงคอร์สเรียนได้ ดังนี้

คอร์สเรียน	จำนวนเรียน ชั่วโมง	ราคา	การนัดหมาย	อายุคอร์ส
รายครั้ง	1 ชม.	2,000 บาท	นัดเป็นครั้งๆ	ตามนัดหมาย
คอร์ส 4 ชม.	4 ชม.	7,200 บาท	ล็อคเวลาได้	1 เดือน
คอร์ส 10 ชม.	10 ชม.	16,000 บาท	ล็อคเวลาได้	4 เดือน
คอร์ส 20 ชม.	20+แถม 1 ชม. (รวม 21 ชม.)	32,000 บาท	ล็อคเวลาได้	8 เดือน
คอร์ส 1 ปี	45+แถม 5 ชม. (รวม 50 ชม.)	72,000 บาท	ล็อคเวลาได้	12 เดือน

ระเบียบการเรียนและการลาเรียน

 

1. การชำระค่าเรียน กำหนดให้ชำระค่าเรียนให้เรียบร้อยก่อนวันเรียนอย่างน้อย 3 วัน และขอสงวนสิทธิ์ในกรณีที่ผู้สมัครเรียนชำระล่าช้ากว่ากำหนด เพื่อให้สิทธิ์การเรียนแก่ผู้สมัครเรียนท่านอื่นที่ชำระค่าเรียนเสร็จสิ้นไปก่อนกำหนดดังกล่าว

2. การลาเรียน สามารถลาได้ไม่จำกัดครั้งตราบเท่าที่ยังอยู่ในระยะเวลาของอายุคอร์สเรียน โดยผู้เรียนสามารถนัดวันเรียนชดเชยเพื่อรักษาสิทธิ์ของอายุคอร์สเรียนได้

3. หากเรียนไม่ครบจำนวนชั่วโมงตามอายุคอร์ส ชั่วโมงเรียนจะถูกตัดโดยอัตโนมัติเนื่องจากคอร์สหมดอายุ แต่หากต้องการใช้ชั่วโมงที่หมดอายุดังกล่าว ผู้เรียนสามารถต่อคอร์สใหม่และใช้ชั่วโมงที่เหลือนั้นให้จบภายในอายุของคอร์สใหม่ได้

4. กรณีผู้เรียนไม่สามารถเรียนครบตามอายุคอร์สได้ด้วยความจำเป็น สามารถแจ้งครูเพื่อขอสงวนชั่วโมงเรียนไว้ได้ โดยจะสามารถเก็บชั่วโมงเรียนนั้นไว้ได้เป็นระยะเวลา 6 เดือน หลังจากนั้นชั่วโมงเรียนจะถูกตัดโดยอัตโนมัติเนื่องจากคอร์สหมดอายุ